อิทธิพลทางวัฒนธรรม ของ มีนเกิลส์ ก๊วนสาวซ่าส์วีนซะไม่มี

มีนเกิลส์ ได้กลายมาเป็นปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมกระแสนิยม[20][21] จากการที่มีผู้คนได้นำฉากต่างๆจากภาพยนตร์เรื่องนี้ได้นำเป็นกิฟส์และมีมส์ลงในสื่อโซเชียลเน็ตเวิร์กทั้ง เฟซบุ๊ก, ทวิตเตอร์ และ ทัมเบลอร์[22][23][24]

และในปีพ.ศ. 2552 มารายห์ แครี ก็ได้ปล่อยซิงเกิ้ลที่มีชื่อว่า “Obsessed” โดยในตอนต้นเพลงมารายห์ก็ได้ใช้คำพูดจากภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “And I was like, 'Why are you so obsessed with me?” ซึ่งคำพูดนี้เป็นคำพูดที่เรจิน่าได้พูดไปในภาพยนตร์ โดยนิก แคนนอน อดีตสามีของเธอก็ได้ออกมาเปิดเผยว่าเธอได้รับแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงนี้จากภาพยนตร์เรื่องนี้[25]

โดยทีน่า เฟย์ก็ได้ออกมาเปิดเผยความรู้สึกเกี่ยวกับภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า “ถ้าคนในกลุ่มวัยผู้ใหญ่ได้ดูมันก็จะบอกว่ามันตลก ซึ่งหนึ่งในนั้นจะต้องมีอย่างน้อยหนึ่งคนที่หัวเราะไปกับมัน แต่ถ้าเป็นในกลุ่มเด็กวัยรุ่นพวกเขาก็จะดูมันเหมือนกับดูรายการเรียลลิตี้ เพราะมันใกล้เคียงกับชีวิตจริงของพวกเขามาก และพวกเขาก็ไม่ค่อยที่ตลกขำขันกันเท่าไหร่”[26]

และในวันที่ 3 ตุลาคมของทุกปีก็ได้ถูกกำหนดให้เป็น วันมีนเกิลส์ โดยยึดจากบทสนทนาระหว่างที่คาดี้และแอรอนพูดกันในเรื่อง โดยผู้คนบางส่วนก็จะเฉลิมฉลองโดยการสวมใส่เสื้อสีชมพูโดยยึดมาจากคำพูดที่คาเรนได้พูดไปในภาพยนตร์เช่นกัน ซึ่งนักออกแบบเสื้อผ้าหรือนักธุรกิจบางส่วนก็ได้ตามกระแสนี้โดยการผลิตเสื้อผ้าหรือผลิตภัณฑ์ต่างๆที่มีคำคมจากภาพยนตร์เรื่องนี้แล้วนำมาขายในราคาต่างๆ[27]

แหล่งที่มา

WikiPedia: มีนเกิลส์ ก๊วนสาวซ่าส์วีนซะไม่มี http://jam.canoe.ca/Television/TV_Shows/S/Saturday... http://www.cbc.ca/newsblogs/yourcommunity/2014/10/... http://allmusic.com/cg/amg.dll?p=amg&sql=r711621 http://boxofficemojo.com/movies/?id=meangirls.htm http://www.boxofficemojo.com/movies/?id=meangirls.... http://www.boxofficemojo.com/news/?id=1325&p=.htm http://www.broadway.com/buzz/166933/so-fetch-tina-... http://www.cnn.com/2014/04/30/showbiz/movies/mean-... http://ca.complex.com/pop-culture/2014/04/mean-gir... http://www.ign.com/games/mean-girls-high-school-sh...